Content

คุณเคยสังเกตไหมว่า เวลาต้องไปพรีเซนต์งานสำคัญ สอบ หรือเจอสถานการณ์ตึงเครียด มักมีอาการ ปั่นป่วนท้อง อย่างท้องเสีย ท้องผูก หรือแม้แต่แน่นท้องโดยไม่มีสาเหตุทางกายภาพ?อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากจินตนาการ แต่มาจากระบบสื่อสารที่ทรงพลังระหว่าง สมอง กับ ลำไส้ ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า Gut-Brain Axis หรือ แกนสมอง-ลำไส้ ซึ่งกำลังเป็นจุดสนใจในวงการแพทย์ทั่วโลก เพราะมันส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางกายและใจในระดับลึกกว่าที่เคยคิด

คุณรู้หรือไม่ว่า การใช้ยาแก้กรดต่อเนื่องหรือบ่อยเกินไป โดยเฉพาะโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้ ลำไส้ของคุณเสื่อมสมรรถภาพ และเสียสมดุลได้โดยไม่รู้ตัว กลายเป็น ภัยเงียบ ที่บ่อนทำลายสุขภาพทางเดินอาหารในระยะยาว

เคยไหม? กินอาหารแค่นิดเดียว แต่กลับรู้สึกแน่นท้อง อึดอัด เหมือนกินบุฟเฟ่ต์มาเต็มพิกัด บางครั้งยังมีอาการเรอเปรี้ยว คลื่นไส้ หรือรู้สึกพองแน่นจนต้องปลดกระดุมกางเกง สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่เรื่อง "กินเยอะไป" หรือ "กินเร็วเกินไป" อย่างที่หลายคนคิดความจริงแล้ว มันคือสัญญาณเตือนที่บอกว่า ลำไส้ของคุณกำลังทำงานหนักเกินไป และระบบย่อยอาหารเริ่มเสียสมดุลโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

อาการ "ท้องอืด" หรือ "แน่นท้อง" คือปัญหาที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อย หรือเรื้อรังเป็นประจำ นั่นอาจเป็น สัญญาณเตือน ว่าระบบย่อยของคุณเริ่มมีปัญหา และหากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารแบบเรื้อรัง เช่น IBS (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคกรดไหลย้อน (GERD) ได้เลยทีเดียว

หลายคนอาจคิดว่า "ลำไส้" มีหน้าที่แค่ช่วยย่อยอาหารหรือขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ลำไส้ของเรามีบทบาทที่ลึกซึ้งและน่าทึ่งกว่านั้นมาก

หากคุณกำลังใส่ใจดูแลสุขภาพหัวใจ หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่ดีต่อหลอดเลือด และพยายามควบคุมความเครียด คุณกำลังดูแลหัวใจอย่างถูกต้องแล้ว แต่...มีอีกหนึ่งอวัยวะที่ถูกละเลย ทั้งที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ "ลำไส้"

คุณเคยรู้สึกท้องอืด ท้องผูก ปวดท้องเรื้อรัง หรือแม้กระทั่งมีปัญหาผิวพรรณโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่?

เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์ การเงิน หรือรูปร่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรถูกใส่ไว้ในลิสต์ของ เป้าหมายแห่งปี คือ การดูแลสุขภาพลำไส้

หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพลำไส้มากขึ้น เพราะรู้ว่ามันไม่ได้เกี่ยวแค่เรื่องการขับถ่าย แต่ยังเชื่อมโยงถึงภูมิคุ้มกัน ผิวพรรณ อารมณ์ และสุขภาพโดยรวม

ชีวิตในวัยทำงานเต็มไปด้วยภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความเครียด ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และเรื่องส่วนตัว ในขณะที่ร่างกายยังต้องรับมือกับพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็น ศัตรูของลำไส้

วัย 50 ขึ้นไปเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ฮอร์โมนลดลง ระบบต่างๆ เริ่มเสื่อมถอย และสิ่งหนึ่งที่คนมักมองข้ามคือ ลำไส้

คำถามสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนเลิกทานจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ "ทำไมฉันทานซินไบโอติกมาเป็นเดือน แต่ยังรู้สึกเหมือนเดิม?"

การทำงานร่วมกันของ FOS (Fructooligosaccharides) พรีไบโอติกและโพรไบโอติกมีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหาร

คุณอาจจะเคยได้ยินว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ หรือที่เรียกว่า ไมโครไบโอม (Microbiome) เป็นเหมือนกองทัพลับ ที่ช่วยคุมสมดุลทั้งระบบย่อยอาหาร ภูมิคุ้มกัน และอารมณ์ของเรา

ทราบหรือไม่ว่า การปริมาณและชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ร่างกายต้องการสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุ

ลำไส้และโพรไบโอติกมีความสัมพันธ์ที่สำคัญกันอย่างมาก เนื่องจากโพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้ โดยความสัมพันธ์ระหว่างลำไส้กับโพรไบโอติกสามารถสรุปได้ดังนี้

จากผลวิจัยพบว่าช่องคลอดที่สุขภาพดีของหญิงวัยเจริญพันธุ์จะมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผนังช่องคลอดเป็นสีชมพูหนาเป็นลอนลูกคลื่นเล็กๆ ตลอดแนว

จากสถิติของปัญหาสุขภาพของผู้หญิงไทยที่พบบ่อย คือ ช่องคลอดอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ

เรามาดูกันว่าโพรไบโอติกแต่ละสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับผู้หญิง และแต่ละสายพันธุ์ช่วยอะไรบ้าง ?

จากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าหากมีการรักษาสมดุลของช่องคลอดโดยการเพิ่มสมดุลด้วยโพรไบโอติก

BioSyn (ไบโอซิน) ซินไบโอติกปรับสมดุลลำไส้ อาหารเสริมที่ตอบโจทย์ทุกความหลากหลาย สนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีไปด้วยกัน ด้วยโพรไบโอติก จุลินทรีย์ดีต่อลำไส้

จากผลสำรวจ Praram9 Hospital พบว่า ร้อยละ 20 ของผู้สูงวัยทั่วโลก มักมีอาการปวดท้อง ขับถ่ายผิดปกติ ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด หรือกรดไหลย้อน ที่นำมาสู่ปัญหาโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)

การดูแลรูปร่างแบบองค์รวมในปัจจุบัน ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เรื่องการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้สารอาหารเพื่อเพิ่มการเผาผลาญเท่านั้น แต่ยังมีเทรนด์ใหม่คือการสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรา นั้นคือการเติม "โพรไบโอติก ปรับสมดุลลำไส้"

ปัญหาสุขภาพของผู้สูงวัย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นสภาพร่างกายและการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายจะเสื่อมถอยลงไป จึงมีแนวโน้มการเจ็บป่วยได้ง่ายและมีโอกาสเรื้อรัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถทำความเข้าใจ ป้องกัน และดูแลได้ ทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงหาตัวช่วยเสริมให้กับร่างกาย

ทั้งโพรไบโอติก และ ไฟเบอร์ 2 ชนิดนี้ มีข้อดีที่แตกต่างกัน

ลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) คือ ภาวะการดูดซึมของลำไส้ผิดปกติ เมื่อเยื่อบุผนังลำไส้ทำงานผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้จะเรียงชิดติดกัน เพื่อป้องกัน คัดกรอง และควบคุมสารพิษ รวมทั้งเชื้อโรคที่จะเข้าสู่กระแสเลือดหากเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้อักเสบ เซลล์จึงไม่เรียงชิดติดกัน ทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นร่างกายจึงเกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้าน ปฏิเสธกับสิ่งแปลกปลอมนั้น จึงเกิดอาการ เช่น ท้องอืด, อาหารไม่ย่อย, ปวดท้อง, แน่นท้อง, อ่อนเพลียง่าย, ปวดตามข้อและกระดูก, ผื่นลมพิษ, รวมทั้งภูมิแพ้ เป็นต้น

เทศกาลปีใหม่จบเเล้ว หลายๆคนกำลังเดินทางเพื่อกลับเข้าสู่โหมดทำงาน เเน่นอนว่าปัญหารถติดที่ไม่อาจเลี่ยงได้นั้น สร้างความหงุดหงิดให้กับเราเป็นอย่างมาก โชคร้ายกว่านั้นคือปวดท้องระหว่างเดินทาง เราจะมีวิธีไหนได้บ้าง ที่พอจะช่วยเอาชีวิตรอดในสถานการณ์เเบบนี้ รวมถึงคนที่ขับถ่ายไม่เป็นเวลา อยากปรับก็สามารถทำได้ วันนี้ BioSyn Thailand มีเคล็ดลับดีๆจากเเพทย์แผนจีนมาบอกต่อ

ใกล้จะถึงวันปีใหม่ 2567 กันแล้ว ตามมาเช็คลิสต์ 8 อาหารมงคล จากทั่วโลก ทั้งของคาวเเละของหวาน ได้ทานอาหารอร่อยๆ แถมยังเป็นมงคลอีกด้วย กินแล้วมั่งคั่งตลอดทั้งปี ! และมีความเชื่ออะไรบ้าง บอกเลยว่าเป็นความเชื่อใหม่ๆ ที่รู้แล้วอาจจะว้าวเลยทีเดียว ! มีประเทศไหนบ้างนะ ตามมาดูกันเลย

ปีใหม่ 2024 หยุดยาวหลายวัน แน่นอนว่าหลายๆคนกำลังวางแผนเดินทางท่องเที่ยวปีใหม่กับครอบครัว วันนี้ BioSyn Thailand  มีไอเดียดี ๆ มาบอกต่อ สำหรับใครที่พักผ่อนอยู่บ้านในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ถึงจะไม่ไปเที่ยวไหน ก็ไม่มีเหงา กับ 7 กิจกรรมที่น่าสนใจ รับรองไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้