เคล็ดลับเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงในทุกฤดูกาล แบบไม่ต้องพึ่งแต่ยาเสมอไป

       ในยุคที่สุขภาพกลายเป็นสิ่งมีค่าและโรคภัยไข้เจ็บมาได้ทุกฤดูกาล หลายคนเลือกพึ่งพายา วิตามิน หรืออาหารเสริมจำนวนมากเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน แต่รู้หรือไม่ว่า...การดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงนั้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งแต่ยาเสมอไปหากเราเข้าใจร่างกายจาก “ต้นตอ” และเลือกวิธีเสริมภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม จะพบว่า “ภูมิคุ้มกันที่ดี” ไม่ใช่แค่เรื่องของโชคหรือพันธุกรรม แต่มาจากการดูแลลำไส้ พฤติกรรมชีวิต และสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำซ้ำทุกวัน

ทำความเข้าใจ “ภูมิคุ้มกัน” อย่างแท้จริง
ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune system) เปรียบเสมือนกองทัพรักษาการของร่างกาย คอยตรวจจับและทำลายเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงเซลล์ผิดปกติภายในร่างกายระบบนี้ทำงานต่อเนื่องทั้งวันโดยที่เราไม่รู้ตัว และความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันจะขึ้นอยู่กับ “รากฐาน” ที่ประกอบด้วย:
    ระบบย่อยอาหาร (โดยเฉพาะลำไส้)
    คุณภาพการนอน
    อาหารที่เรากิน
    ความเครียดสะสม
    การออกกำลังกาย

    ลำไส้: จุดเริ่มต้นของภูมิคุ้มกันที่หลายคนมองข้าม รู้หรือไม่ว่า มากกว่า 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายอาศัยอยู่ในลำไส้ เพราะลำไส้เป็นด่านแรกที่อาหาร เชื้อโรค หรือสารแปลกปลอมผ่านเข้าสู่ร่างกายหากลำไส้แข็งแรง มีจุลินทรีย์ที่ดีอยู่มากพอ:
    ภูมิคุ้มกันจะตอบสนองอย่างเหมาะสม ไม่ไวเกินไป (ภูมิแพ้) หรือช้าจนป่วยง่าย
    ลดโอกาสเกิดการอักเสบเรื้อรัง
    ผลิตสารสื่อประสาทและแอนติบอดีได้ดี
    ป้องกันโรคเรื้อรังที่เกิดจากการอักเสบในลำไส้ เช่น IBS, ภูมิแพ้ผิวหนัง, ภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง

   7  เคล็ดลับเสริมภูมิคุ้มกันแบบยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งยาเสมอไป

1. เสริมจุลินทรีย์ดีด้วย “ซินไบโอติก” เริ่มต้นด้วยการเสริมโพรไบโอติก (จุลินทรีย์มีประโยชน์) และพรีไบโอติก (อาหารของโพรไบโอติก) อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้จุลินทรีย์ดีแข็งแรงและช่วยดูแลระบบภูมิคุ้มกันจากภายใน
2. กินผักผลไม้สด หลากสี วิตามิน C, A, E รวมถึงไฟโตนิวเทรียนท์ในผักผลไม้ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และเสริมภูมิคุ้มกันได้ตามธรรมชาติ
3. นอนหลับลึก 7-9 ชั่วโมงต่อคืน ขณะนอนร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงสร้างเม็ดเลือดขาวและสารภูมิคุ้มกันอย่างเต็มที่
4. หลีกเลี่ยงน้ำตาลและอาหารแปรรูป น้ำตาลมากเกินไป ทำให้จุลินทรีย์เสียสมดุล ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันทำงานแย่ลง และเพิ่มการอักเสบในร่างกาย
5. ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง และกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว แต่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเกินไปจนร่างกายเครียด
6. จัดการความเครียดอย่างจริงจัง ความเครียดสะสมทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลพุ่งสูง ซึ่งไปกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
7. ดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียง น้ำคือพื้นฐานของระบบไหลเวียนที่ช่วยขนส่งเซลล์ภูมิคุ้มกันไปยังจุดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

BioSyn เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซินไบโอติก ที่รวมโพรไบโอติกคุณภาพสูงกับพรีไบโอติก (FOS) เพื่อเสริมสมดุลลำไส้และสร้าง “ภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืนจากภายใน”

    BioSyn 1 แคปซูล มีโพรไบโอติกไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านตัว
    ผลิตด้วยนวัตกรรม SYNTEX™ สำหรับใช้ในทางการแพทย์
    ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยระดับโลก
    ปลอดภัย ไม่มีสารก่อแพ้ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น

    คุณสมบัติเด่น:

•   เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคในทุกฤดูกาล
•   ลดภูมิแพ้เรื้อรัง เช่น แพ้ฝุ่น คัดจมูกตอนเช้า
•   ปรับสมดุลระบบขับถ่าย และช่วยให้ผิวพรรณสดใส
•   ลดการอักเสบในลำไส้ ฟื้นฟูหลังใช้ยาปฏิชีวนะ


     ช้อปออนไลน์ได้เลยที่ :

Inbox : m.me/BioSynThailand
Line Shopping : https://shop.line.me/@biosyn
Shopee : BioSyn Official : https://shopee.co.th/biosyn_official
Lazada : BioSyn Thailand : https://bit.ly/3SXeQpz


สรุปส่งท้าย: ภูมิคุ้มกันที่ดี เริ่มต้นจากการเข้าใจร่างกาย
ยาคือทางเลือกที่ดีในบางเวลา แต่ ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงตลอดปี ไม่ได้มาจากยาเสมอไป มัน เริ่มจากการดูแลตัวเอง “ทุกวัน” อย่างตั้งใจเริ่มต้นจากภายใน ดูแลลำไส้ ฟื้นฟูจุลินทรีย์ที่ดี แล้วภูมิคุ้มกันของคุณจะตอบแทนด้วยพลังการป้องกันที่ยั่งยืน


    แหล่งอ้างอิง:
1. Belkaid Y & Hand TW. (2014). “Role of the microbiota in immunity and inflammation.”
2. Hill C, et al. (2014). “Expert consensus on probiotics and the immune system.”
3. Harvard Health Publishing. “How to boost your immune system.”

   เรียบเรียงโดย: BioSyn Thailand