ระบบย่อยไม่สมดุล สัญญาณเตือนจากลำไส้ที่ไม่ควรมองข้าม

Last updated: 22 เม.ย 2568  |  255 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ระบบย่อยไม่สมดุล สัญญาณเตือนจากลำไส้ที่ไม่ควรมองข้าม

        คุณเคยรู้สึกท้องอืด ท้องผูก ปวดท้องเรื้อรัง หรือแม้กระทั่งมีปัญหาผิวพรรณโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่? ถ้าใช่ อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่คิด เพราะมันอาจเป็น “สัญญาณเตือน” จากลำไส้ของคุณว่า “ระบบย่อยอาหารไม่สมดุล” และหากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจส่งผลกระทบลุกลามไปถึงทั้งระบบภูมิคุ้มกัน สุขภาพจิต และสุขภาพโดยรวม


ลำไส้ไม่ได้มีไว้แค่ย่อยอาหาร แต่คือศูนย์กลางสุขภาพของร่างกาย

ในร่างกายของเรานั้น ลำไส้ไม่ได้ทำหน้าที่ย่อยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการ:

●  ดูดซึมสารอาหารและวิตามิน

●  ผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน ซึ่งมีผลต่ออารมณ์

●  กระตุ้นและควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน

●  ขจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย

และสิ่งที่ทำให้ลำไส้สามารถทำหน้าที่ทั้งหมดนี้ได้อย่างสมบูรณ์ก็คือ “จุลินทรีย์ในลำไส้” หรือ Gut Microbiota ซึ่งมีมากกว่า 100 ล้านล้านตัว เมื่อระบบจุลินทรีย์เหล่านี้เสียสมดุล ลำไส้ก็จะส่งสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติออกมา

สัญญาณเตือนที่บอกว่าระบบย่อยของคุณไม่สมดุล

1. ท้องอืด แน่นท้อง หรือเรอบ่อย
เป็นอาการเบื้องต้นที่พบบ่อยที่สุด จุลินทรีย์ไม่ดีในลำไส้อาจผลิตแก๊สมากกว่าปกติ ทำให้รู้สึกแน่นอึดอัด

2. ท้องผูก หรือท้องเสียบ่อย
หากคุณขับถ่ายไม่สม่ำเสมอ อุจจาระแข็งหรือเหลวเกินไป อาจเกิดจากจุลินทรีย์เสียสมดุล ทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ

3. อ่อนเพลียเรื้อรัง
ลำไส้ที่ไม่สมดุลสามารถส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก หรือวิตามินบี ทำให้เกิดภาวะเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ

4. ภูมิแพ้ ผิวแพ้ง่าย หรือสิวอักเสบเรื้อรัง
ระบบลำไส้ที่มีการอักเสบอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและก่อให้เกิดการตอบสนองของผิวที่ไวผิดปกติ

5. นอนไม่หลับ หรืออารมณ์แปรปรวน
กว่า 90% ของเซโรโทนินในร่างกายผลิตจากลำไส้ เมื่อจุลินทรีย์ไม่สมดุลจะมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนนี้โดยตรง


ลำไส้กับระบบภูมิคุ้มกัน: ความสัมพันธ์ที่มากกว่าการย่อยอาหาร

ระบบลำไส้เป็นที่อยู่ของเซลล์ภูมิคุ้มกันมากกว่า 70% ของร่างกาย หากลำไส้มีความสมดุล ภูมิคุ้มกันก็จะทำงานได้เต็มที่ ช่วยป้องกันการติดเชื้อ โรคเรื้อรัง และแม้กระทั่งมะเร็งบางชนิด

แต่ถ้าระบบจุลินทรีย์เสียสมดุล (Dysbiosis) จะทำให้เกิดการรั่วของผนังลำไส้ (Leaky Gut) ซึ่งอาจปล่อยสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายแบบเงียบ ๆ


ทางออกเพื่อฟื้นฟูสมดุลลำไส้ เริ่มต้นง่ายๆ ได้ทุกวัน

1. ปรับพฤติกรรมการกิน

●  ลดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันทรานส์

●  เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชที่มีไฟเบอร์สูง

●  ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน


2. เสริมพรีไบโอติกและโพรไบโอติก

●  พรีไบโอติก: อาหารของจุลินทรีย์ดี เช่น กล้วย หัวหอม ข้าวโอ๊ต

●  โพรไบโอติก: จุลินทรีย์ดีจากโยเกิร์ตหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพสูง เช่น BioSyn


3. ออกกำลังกายเป็นประจำ
ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และลดความเครียด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมดุลจุลินทรีย์


4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนที่ดีมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนและการฟื้นฟูของระบบย่อย


BioSyn ตัวช่วยฟื้นฟูลำไส้ เสริมสมดุลจากภายใน

BioSyn ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซินไบโอติก (Synbiotic) ที่รวมจุลินทรีย์ดี (Probiotics) และอาหารของจุลินทรีย์ (Prebiotics) ไว้อย่างลงตัว

     1 แคปซูล ให้โพรไบโอติกมากกว่า 20,000 ล้านเซลล์
     ใช้นวัตกรรมการผลิตระดับการแพทย์ SYNTEX™
     ปลอดภัย ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยชั้นนำ
     เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร ผิวพรรณ หรือระบบภูมิคุ้มกัน


คุณสมบัติเด่นของ BioSyn

     ลดอาการลำไส้แปรปรวน ท้องอืด ท้องผูก

     เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ

     ส่งเสริมสุขภาพผิวและสมอง

     ปรับสมดุลลำไส้ คืนความสบายให้ชีวิตประจำวัน


การมีสุขภาพดีไม่ใช่เพียงแค่การออกกำลังกายหรือดูแลหัวใจเท่านั้น แต่ “ลำไส้” คือด่านแรกของสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและใจอย่างลึกซึ้ง หากคุณเริ่มมีสัญญาณเตือนจากระบบย่อย นี่คือเวลาที่ควรเริ่มดูแลลำไส้ของคุณอย่างจริงจัง

อย่าปล่อยให้ลำไส้ส่งสัญญาณเตือนซ้ำๆ ดูแลตั้งแต่วันนี้ ด้วย BioSyn

“เพราะลำไส้ที่สมดุล คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ยั่งยืน”


      ช้อปออนไลน์ได้เลยที่ :

        Inbox : m.me/BioSynThailand

        Line Shopping : https://shop.line.me/@biosyn

     Shopee : BioSyn Official : https://shopee.co.th/biosyn_official

      Lazada : BioSyn Thailand : https://bit.ly/3SXeQpz


     แหล่งอ้างอิง
1. Mayer EA. Gut feelings: the emerging biology of gut–brain communication. Nat Rev Neurosci. 2011.
2. Roberfroid M. Prebiotics and probiotics: are they functional foods? Am J Clin Nutr. 2000.
3. NIH: Human Microbiome Project – National Institutes of Health.
4. Harvard Health Publishing: The gut-brain connection.

     เรียบเรียงโดย: BioSyn Thailand

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้